Pre-loader
บทความทั้งหมด / ผู้ดูแล … ใครก็ได้ที่มาทำแทนคุณ อย่างงั้นหรือ?


ผู้ดูแล … ใครก็ได้ที่มาทำแทนคุณ อย่างงั้นหรือ?


ผู้ดูแล … ใครก็ได้ที่มาทำแทนคุณ อย่างงั้นหรือ? 

 

ถ้าคุณคือคนนึงที่ยังต้องทำงานหาเงิน

ตอนนี้คุณกำลังเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงานใช่หรือไม่

คุณกำลังสนุกและพบกับสิ่งที่ท้าทายความสามารถของคุณอยู่ใช่หรือไม่

หากคำตอบคือใช่แล้ววันหนึ่งข่าวร้ายที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็มากถึงนั่นคือคุณหมอบอกว่าคุณพ่อของคุณเป็นโรคตับแข็งระยะที่ 3

 

อาการของพ่อคือ ตัวเหลือง ท้องบวมโต แขนขาอ่อนแรง  จากเดิมที่อยู่คนละบ้านตอนนี้ต้องมาพักด้วยกัน แต่จะทำยังไงในเมื่อคุณต้องออกไปทำงานทุกวัน ทางเดียวคือต้องหาคนมาช่วยอยู่กับพ่อที่บ้านเวลาที่คุณออกไปทำงาน แล้วจะหาจากที่ไหนล่ะ  ใครที่คุณจะไว้ใจได้ คนแปลกหน้าที่คุณจำเป็นต้องพึ่งพาเขาด้วยการตัดสินใจเพียงแค่ เหตุผลเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น มันไม่ง่ายเลยใช่มั้ยคะ 

 

2 วันก่อนทางบ้านติดต่อเข้ามาเพื่อหาผู้ดูแลแจ้งอาการของผู้สูงอายุว่า สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อาบน้ำทานข้าวได้เพียงแค่ต้องการผู้ดูแลไปอยู่เป็นเพื่อน มาวันนี้ทีมงานได้ไปเยี่ยมที่บ้าน พบว่าผู้สูงอายุนอนอยู่บนโซฟาหายใจเป่าปาก มือเท้าเริ่มบวม กดบุ๋ม พยาบาลได้สอบถามถึงความต้องการในการดูแลรวมถึงประวัติการตรวจรักษาก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาลมาเพื่อดูแลต่อที่บ้าน แนะนำเรื่องการสังเกตอาการฉุกเฉิน การประเมินอาการเพื่อเฝ้าระวังอันตรายต่างๆ คล้อยหลังจากที่เรากลับออกมาเพียง 2 ชั่วโมง ทางบ้านแจ้งว่าได้พาผู้สูงอายุไปที่ห้องฉุกเฉินแล้ว หลังจากที่ญาติได้ตระหนักว่านี่มันอาการทรุดลงและให้อยู่ที่บ้านไม่ได้แล้วหลังจากโทรเข้าไปหาเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเพื่อรายงานอาการและขอรับคำแนะนำ 

 

แน่นอนว่าเมื่ออาการของผู้สูงอายุเปลี่ยนแปลงไปความต้องการผู้ดูแลที่จะเข้ามาช่วยเหลือก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกันเดิมทีแค่อยากได้คนมาอยู่เป็นเพื่อน มีอะไรก็รายงานไปที่ญาติ แต่ตอนนี้อาการทรุดลงสรุปแล้วรู้แต่ว่าเราต้องการคนช่วยแต่เขาคนนั้นต้องทำอะไรแค่ไหนบ้าง จะหาคำตอบเหล่านี้ได้ที่ไหน วันนี้เก๋าแคร์ทีม มีคำแนะนำมาฝากค่ะ 

 

จำง่ายๆ กิน นอน ขับถ่าย เคลื่อนไหวร่างกาย และอะไรคคืออาการฉุกเฉินต้องรู้?

 

อย่างแรก เรื่องกิน : ผู้สูงอายุกินอาหารประเภทไหน อาหารธรรมดาอาหารอ่อน อาหารอ่อนพิเศษหรืออาหารเหลว ผู้ดูแลจำเป็นต้องช่วยเตรียมอาหารหรือไม่หากเป็นอาหารเหลวจะต้องมีทักษะในการตวงการชงหรือการทำอาหารปั่นเรามีต้องซักกันให้ละเอียด ความสามารถในการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุก็สำคัญเนื่องจากมีผลต่อการกิน ของผู้สูงอายุและสารอาหารที่จะได้รับเข้าไปในแต่ละวัน

 

เรื่องที่ 2 การขับถ่าย ผู้สูงอายุสามารถที่จะลุกเดินเหินไปที่ห้องน้ำได้เองหรือไม่ จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการเดินหรือไม่ ห้องน้ำมีราวจับหรือไม่ หากจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากห้องน้ำมีสัญญาณขอความช่วยเหลือมาถึงคนข้างนอกหรือไม่ หากกรณีที่ต้องขับถ่ายบนเตียงผู้ดูแลต้องมีทักษะเหล่านี้หรือทักษะการบันทึกปริมาณน้ำเข้าออกในร่างกาย การเทปัสสาวะจากถุงเก็บปัสสาวะ และบันทึกอย่างถูกต้อง เป็นต้น 

 

เรื่องที่ 3 การนอนผู้สูงอายุเข้านอนในเวลาเท่าไหร่ ตื่นนอนเช้าแค่ไหน และระหว่างวันมีการงีบหลับในเวลาไหนบ้างเพียงพอหรือไม่ และปัจจุบันรูปแบบการพักผ่อนเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ทั้งนี้ความต้องการในการดูแลผู้ดูแลจำเป็นจะต้องนอนพักห้องเดียวกับผู้สูงอายุหรือไม่ออกแบบการขอความช่วยเหลือในช่วงของการพักผ่อนกลางคืนอย่างไร เรื่องนี้ค่อนข้างมีความสำคัญกับการตัดสินใจจ้างงานเนื่องจากงานดูแลผู้สูงอายุส่วนใหญ่แล้วจะต้องการให้ผู้ดูแลพักอยู่ที่บ้านร่วมกัน การที่ผู้ดูแลถูกจ้างงานจะมีเวลาทำงานที่ชัดเจนแต่หากในเวลากลางคืนต้องการให้ดูแลผู้สูงอายุด้วยเก่าฮับแนะนำว่าให้พูดคุยตกลงกันตั้งแต่ก่อนจ้างงานเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดและรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมซึ่งอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งในระหว่างการทำงานรวมถึงมีโอกาสที่จะยุติการเลิกจ้างทำให้การดูแลผู้สูงอายุในรายนั้นๆไม่ต่อเนื่องเพราะต้องหาคนใหม่มาทดแทน

 

เรื่องที่ 4 การเคลื่อนไหวร่างกาย การออกกำลังกาย การทำกายภาพตามแผนการรักษาหรือฟื้นฟูร่างกาย อาจจะต้องสอบถามถึงทักษะความสามารถของผู้ดูแลว่าผ่านการอบรมหรือมีประสบการณ์ในการทำกิจกรรมเหล่านี้หรือไม่ยกตัวอย่างเช่นหากผู้สูงอายุมีภาวะร่างกายอ่อนแรงการเคลื่อนไหวร่างกายจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือหากผู้ดูแลไม่สามารถที่จะช่วยเหลือในการเคลื่อนไหวของผู้สูงอายุได้ดีมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้มาก ทั้งนี้อาจจะหมายรวมไปถึงหากไม่สามารถที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายหรือแผนการกายภาพบำบัดได้ก็จะทำให้ผู้สูงอายุมีภาวะทุพพลภาพยาวนานหรืออาการเจ็บป่วยแย่ลงได้ 

 

และที่สำคัญมากๆเลยก็คืออะไรคืออาการฉุกเฉินที่ผู้ดูแลจะต้องรู้เกี่ยวกับผู้สูงอายุรายนั้นๆ

เนื่องจากบริบทของการดูแลผู้สูงอายุแต่ละท่านนั้นแตกต่างกันทั้งในเรื่องของภาวะสุขภาพส่วนบุคคลโรคประจำตัวหรืออาการเจ็บป่วยในครั้งนั้น แผนการรักษาหรือการติดตามอาการเพื่อจะเก็บข้อมูลและรายงานต่อแพทย์เจ้าของไข้เมื่อถึงเวลาต้องไปพบแพทย์ในครั้งถัดไป ยกตัวอย่าง ผู้สูงอายุรายนี้มีอาการท้องโตบวมน้ำดังนั้นสิ่งสำคัญเลยคือหากท้องโตมากจนผู้สูงอายุรู้สึกอึดอัดไม่สามารถนอนราบได้หายใจเป่าๆรวมถึงมือและเท้าบวมมากขึ้นประกอบกับหากบันทึกปริมาณน้ำจากการชงนมและให้ผู้สูงอายุได้ดื่มตลอดทั้งวันเปรียบเทียบกับปริมาณปัสสาวะพี่ออกมาในแต่ละวันนั้นไม่บาลานซ์กัน มันหมายถึงว่าร่างกายไม่สามารถขับน้ำออกได้อย่างที่ควรจะเป็น นี่คือสิ่งสำคัญที่ผู้ดูแลควรจะต้องบันทึกและรายงานให้ญาติหรือบุคลากรทางการแพทย์ได้รับทราบเพื่อที่จะสังเกตอาการและนำส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงทีหากเกิดอาการเหล่านี้ระหว่างการดูแล

 

เห็นไหมล่ะคะว่าจากจุดเริ่มต้นต้องการแค่คนอยู่เป็นเพื่อน ทำไมตอนนี้ผู้ดูแลต้องทำอะไรเยอะแยะ แล้วเราเองจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ดูแลที่เราต้องการเค้าต้องเป็นใคร ทำอะไรเป็นบ้าง และที่สำคัญจะเข้ามาอยู่บ้านเราเค้าน่าไว้ใจได้แค่ไหน?

ไว้ใจ ให้เก๋าฮับช่วยคุณเถอะค่ะ ;)